Mook

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ความเชื่อ(ที่ผิด)เกี่ยวกับการเกิดสิว

หลายคนมีกมีความเชื่อ หรือเชื่อจากการบอกว่าจากคนอื่นมาต่างๆนานา ว่าสิวเกิดขึ้นเพราะ.....แต่คุณสาวๆ ทราบหรือไม่ค่ะว่าอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้แท้จริงแล้ว อาการดังกล่าวที่เกิดสิวอาจจะเกิดขึ้นกับแค่บางคนเท่านั้น

1. กินช็อกโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ยืนยันว่า อาหารพวกช็อกโกแลต มันฝรั่งทอด ถั่วทอด พิซซ่า อาหารมัน ๆ น้ำอัดลม ไอศกรีม เป็นตัวกระตุ้นให้สิวขึ้น เคยมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์

โดยแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกไม่ให้กินช็อกโกแลตเลย อีกกลุ่มให้กินช็อกโกแลต ผลปรากฏว่า ไม่พบว่าอัตราการเกิดสิวในทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยยืนยันว่า อาหารบางชนิดกินแล้วสิวกำเริบก็ควรงดอาหารนั้น ๆ เป็นราย ๆ ไป นั่นก็แสดงให้เห็นว่า สิวที่เกิดจากการกินช็อกโกแลต นั้นเกิดเพียงบางคนเท่านั้น

2. เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น หรือทำให้สิวกำเริบ บางคนเชื่อว่า เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น ความเชื่อนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งยุโรปโบราณ ที่ว่าการแต่งงานทำให้สิวหายไปได้ แต่แท้ที่จริงผู้ที่แต่งงานแล้วอาจมีสิวหายไป

เพราะวัยที่แต่งงานนั้นผ่านพ้นวัยรุ่น จึงเป็นวัยที่พบสิวน้อยลง ในทางตรงกันข้ามบางคนเชื่อว่า สิวจะกำเริบเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่เป็นจริง การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้ฮอร์โมนเพศชายซึ่งเป็นต้นเหตุของสิว หลั่งออกมา จึงไม่เกี่ยวกับการเกิดสิว สรุปแล้วเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนทำให้สิวเลวลงหรือดีขึ้นแต่อย่างใด

3. แสงแดดทำให้สิวดีขึ้น แสงแดดอาจทำให้ดูเหมือนว่าสิวดีขึ้น เพราะแสงแดดทำให้ผิวไหม้แดงและคล้ำลง ช่วยบดบังรอยแดงรอยดำจากสิวอักเสบและรอยจากการอักเสบ

แต่แท้ที่จริงแล้วนอกจากแสงแดดจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังแล้ว แสงแดดยังทำให้ผิวระคายเคืองและสิวกำเริบ ข้อนี้สำคัญมากนะค่ะ หากไปตากแดดนานๆ อาจส่งผลร้ายต่อผิวมากกว่าที่จะทำให้สิวหาย แต่จะมีโรคร้ายตามมา เช่น มะเร็วผิวหน้ง เป็นต้น

4. ผิวมันทำให้สิวกำเริบ สิวไม่ได้เกิดจากผิวมัน แต่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่บุท่อรูขุมขนที่หลุดออกตามธรรมชาติ ไม่ถูกขจัดสู่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการตกค้าง เมื่อรวมกับไขมันที่ต่อมไขมันสร้างขึ้น จะก่อให้เกิดสิวอุดตัน

ฉะนั้น ผิวมันเป็นอาการ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากสาวๆที่มีใบหน้ามัน ก็ควรดูแลรักษาผิวหน้าหรือเลือครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวหน้าเพื่อการมีใบหน้าที่สวยสดใสด้วยนะค่ะ

5. การรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี วัยรุ่นเป็นวัยที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี เช่น ถ้าใช้ยาทา 2.5% benzoyl peroxide แล้วได้ผล ถ้าเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10% ก็น่าจะได้ผลมากขึ้นอีก

แต่ที่จริงแล้วถ้ายาความเข้มข้นต่ำได้ผลดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงขึ้น นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น การระคายเคืองมากขึ้นตามมาได้ อันตรายนะ ถ้าไปหายาใช้เอง ยังไงหากใครที่อยากใช้ยารักษาสิว ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำปรึษาดีกว่นะค่ะ

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีการสร้างสุขด้วยหน้าใสๆ


- ดื่มน้ำมากๆ ที่เขาว่าให้ดื่มวันละ 6-8 แก้วน่ะ ให้คุณมากกว่านั้นได้ ก็จะเป็นการดี
และยิ่งถ้าเป็นน้ำเปล่าด้วย จะยิ่งดีใหญ่ หากคุณชอบดื่มน้ำอัดลม ขอบอกว่าควรเลิกดื่มได้แล้วละค่ะ เพราะในน้ำอัดลมมีแต่น้ำตาลและแก๊ส

- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ บริหารตัวแล้วอย่าลืมบริหารหน้า นวดหน้าด้วยนะคะ ตัวเต่งตึงแต่หน้าเหี่ยวละก้อ หมดกัน!

- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล งดน้ำชา กาแฟ งดสูบบุหรี่ เพราะมันจะทำให้ คุณแก่เกินอายุค่ะ ใครจะเถียงคอเป็นเอ็นละก้อ .... เดี๊ยนท้าให้คุณที่สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟจัดๆ ลองเดินคู่กันเพื่อนที่ไม่ดื่ม ไม่สูบ แล้วถามคนอื่นๆดูว่า คุณกับ เพื่อนใครแก่กว่าใคร (ข้อสำคัญ เขาต้องไม่รู้จักเพื่อนคุณมาก่อนนะคะ เพื่อป้องกันการลำเอียง)...... พึงระลึกไว้เสมอว่าอย่าเข้าข้างตนเอง แต่ให้คนอื่น ที่เขาหวังดีต่อคุณ มองคุณจะดีกว่าค่ะ

- อย่าตากแดดเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดที่แรงจัดเป็นเวลานานๆ มิเช่นนั้นหน้าของคุณจะแก่ไม่รู้ตัวเชียวค่ะ

- ใช้โลชั่นอย่างเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความเสี่ยง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อม ที่จะทำให้แก่ เช่น อยู่แต่ในห้องแอร์ ที่เปิดเบอร์เดียว หนาวจัดตลอดปี ตลอดชาติ หากแอร์ของคุณปรับได้ กรุณาปรับเถอะค่ะ เพราะบางบริษัทเปิด แอร์เย็นแบบทุกข์ทรมาน พนักงานนั่งสั่น ใส่เสื้อหนาวกันโดยทั่วหน้า ก็ในเมื่อมันทุกข์ขนาดนั้น จะต้องเปิดให้มันทรมานทำไม เฮ้อ คนไทยหนอ คนไทย !!!!

- ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แล้วยิ่ง หาก คุณเป็นสิวด้วยแล้วละก้อ ให้คุณใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะ สำหรับการ รักษาสิวเท่านั้น โฟมที่มีส่วนผสมของ เอ เอช เอ จะช่วยทำให้ใบหน้า ของคุณ ลื่นขึ้น ที่สำคัญห้ามแกะสิวอย่างเด็ดขาด คนที่เป็นสิวเสี้ยน

หากยิ่งแกะ ผิวของ คุณหลังแกะก็จะคล้ายกับโลกพระจันทร์ ส่วนบรรดาสิวมีหนองทั้งหลาย หากยิ่งแกะก็จะยิ่งเกิดการอักเสบ สิว เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ใบหน้า ของคุณ ดูเครียด และแก่ได้โดยเฉพาะบรรดาผิวโลกพระจันทร์ทั้งหลายค่ะ

- ขัดหน้าด้วยตนเอง โดยการใช้สครับ หากคุณเป็นคนผิวมัน ให้ขัดอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้นโดยขัดนานๆบริเวณดั้งจมูก และคางที่มีสิวเสี้ยน

- หากคนเป็นคนผิวแห้ง ควรใช้มอยซเจอร์ไรส์เซอร์ก่อนนอนทุกครั้ง หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่แห้งเป็นพิเศษ ควรใช้โลชั่นที่มี เอ เอช เอให้ทั่วบริเวณ แต่หากคุณเป็นคนหน้ามัน ควรใช้มอยซ์เจอร์ไรส์ชนิดเจล จะเหมาะกว่าชนิดครีม

- อย่าใช้มืออันแสนสกปรกในช่วงวันไปสัมผัสบนใบหน้า จำไว้ว่าทุกครั้งเมื่อ ไปถึงที่ทำงาน หรือทันทีที่กลับถึงบ้านให้คุณล้างมือก่อนเสมอ ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันการที่คุณจะเผลอเอามือไปจับหน้าจับตาให้สิวขึ้นได้

- ล้างเครื่องสำอางออกอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยให้คุณล้าง มาสคารา หรืออายแชโดว์ด้วยเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อมิให้น้ำมัน ที่ว่าแทรกซึมไปตามผิวหนังส่วนอื่นๆ อันจะชัดนำให้สิวพากันมาขึ้นพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย

- หากคุณมีปัญหาเรื่องผิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ให้คุณ ปรึกษา แพทย์โรคผิวหนังที่ชำนาญเท่านั้น อย่าได้มัวเสียเวลาไปหา ที่ปรึกษา ความงามตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ใครจะมารู้ดีกับคนที่เชี่ยวชาญ เฉพาะทาง ล่ะเป็นไม่มี

ชอบหม่ำสาหร่ายทะเลต้องระวัง

ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน

ในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้ แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม

จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้งก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่นๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่าเนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด

มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

เคล็ดลับ....พิชิตใจหนุ่มๆ ให้อยู่กับคุณไปนานๆ

ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยความรัก การที่คนสองคนรักกันตกลงใช้ชีวิตคู่กันนั้นถือเป็นเรื่องที่ยากนะค่ะ แต่ถ้าจะให้ชีวตคู่นั้นอยู่ไปนานๆ นั้นยากกว่าค่ะ คนสองคนต่างเพศมาจากต่างที่พื้นฐานทางจิตใจต่างกัน

เมื่ออยู่กันไปนานก็อาจจะมีบางอย่างที่เริ่มทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่ และอาจจบลงด้วยคำว่าเลิกรา....แต่ถ้าคุณสาวๆ อยากพิชิตใจหนุ่มๆ ให้อยู่กับคุณไปนานละก็ลองมาดูเคล็ดลับ 5 ข้อ นี้สิค่ัะ อาจจะช่วยให้คุณประคับประครองความรักของคุณทั้งสองให้รักกันไปนานแสนนาน

ข้อที่ 1 : ขุ้ยเรื่องบนเตียงของถ่านไฟเก่า

รู้อยู่แล้วแหละว่า ต้องเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเก่าของคุณ แต่อย่าให้เค้ารู้ซิว่า ช่ำชองแค่ไหน หากคุณนำเรื่องนี้มาเล่าให้แฟนใหม่ฟัง มันไม่ดีแน่นอน รู้น่ะว่า คบกันห้ามมีความลับ ความปิดบัง แต่เรื่องนี้เงียบนิสนึง หากเค้าอยากให้คุณขุดเรื่องนี้มาเล่า เพื่ออะไรก็ตาม บอกเค้าว่า ฝันไปเถอะ ปัจจุบันสำคัญกว่าอดีต เรื่องที่ผ่านมาแล้ว อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยค่า

ข้อที่ 2 : ใช้เงินเก่ง ช้อปกระจาย

จำไว้ใส่สมองเลยนะคะ เงินไม่ได้หากันได้ง่ายๆ สาวเราเวลาช้อปที(เงิน)กระจายค่ะ นิสัยโรคจิต บางคนซื้อแล้วซื้ออีก นั่นก็สวย นี่ก็เซลล์(sale) ช้อปเพลินซะจนคิดเข้าข้างตัวเองว่า เงินหาย พอกลับมาทบทวนความจำอีกที ก็ถึงบางอ้อ อ้าว.. หมดตังค์ไปกับเสื้อผ้า เครื่องสำอางพวกนี้นี่เอง

ถ้าคุณแฟนรู้ละยุ่งเลย อาจโดนประณามได้ว่า ใช้จ่ายเกินตัว สุรุ่ยสุร่าย เทศน์ยาวล่ะ..งานนี้ หากเบื่อคำพูดเหล่านี้ ก็จงเก็บความลับนี้เชียว รีบหาซ่อนด่วนๆ หรือไม่ก็แอบช้อปขณะเขาทำงานหัวหมุนก็ได้ แต่พึงสังวรหน่อยก็ดีคะ ช่วยกันเก็บเงินเก็บทองใช้จ่ายอย่างพอเพียงอย่างมีปร ะโยชน์จะดีกว่านะจ๊ะ

ข้อที่ 3 : เม้าท์เรื่่องครอบครัวแฟนเรา

เรื่องภายในครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนคะ เห็นมาเยอะ ภรรยากับแม่สามีเกลียดกัน จนเอาพล็อตมาทำละครน้ำเน่าหลังข่าวเยอะแยะไปหมด หากคุณไม่ชอบคนในตระกูลเค้า แนะนำให้สงบปากสงบคำบ้างก็ดี เพราะมันจะทำให้แฟนคุณกระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ก็เมีย นั่นก็แม่ นี่ก็พ่อ ญาติโกโหติกาเค้า

ไม่ชอบอะไรเก็บไว้ในใจ หรือไม่ก็แปลงคำพูด คิดประโยคให้สละสลวยมีเหตุมีผล ก่อนใช้อารมณ์พูดออกมาอย่างไม่ยั้งคิด เมื่อคุณเป็นแฟนเค้าแล้ว ครอบครัวเค้าก็เท่ากับเป็นของคุณเหมือนกันคะ

ข้อที่ 4 : แอ๊บเหล่หนุ่มๆ หน่อยก็ดี

การเล่นหูเล่นตากับชายอื่น หรือการบริหารเสน่ห์นั้น มันอาจทำให้ผู้หญิงอย่างเรากระชุ่มกระชวยได้บ้าง แต่หากแฟนคุณรู้ละก้อ งานเข้าแน่ๆ คุณจะได้รู้ซะทีว่า "หมาหวงห้าง" มันเป็นยังไง ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้หรอกนะะพวกผู้ชายเนี้ย

เก็บอาการไว้หน่อยนะสาวๆ รู้ว่าชอบกรี๊ดหนุ่มๆ เมื่อต้องสเป็ก แต่สงวนตัวหน่อยนะคะ อย่าลืมสถานะตัวเองว่า มีแฟนแล้ว

ข้อที่ 5 : อย่ายี้ เมื่อเขาให้ของ

คุณผู้ชายมักไม่มีทางรู้หรอกว่าแฟนสาวของคุณชอบอะไร คุณอย่าปฏิเสธเมื่อเค้าให้ของเด็ดขาด เพราะครั้งต่อไปอาจพลาดหมด ไม่ได้อะไรสักอย่าง ของเล็ก หรือใหญ่มีคุณค่าทางจิตใจทั้งสิ้น ปฏิเสธ "ของ" มีค่าเท่ากับปฏิเสธ "เขา"

ค่อยๆ บอกดีกว่า คุณชอบอะไร ครั้งหน้าอาจสมใจใจปรารถนา อย่าปากเร็วด่วนจี๋ว่า ไม่เอาเด็ดขาด ไม่ชอบงั้นงี้ มันอาจทำให้เขาสุดเซ็ง เสียกำลังใจ ตั้งใจซื้อของมาให้แต่คุณกลับทำหน้าเบ้ซะอย่างน้าน ถนอมน้ำใจกันไว้คะ เดี๋ยวชวดหมดทั้งคนทั้งของไม่รู้ด้วย

น้ำพริกเห็ดฟางนางรม

เครื่องปรุง

พริกหนุ่ม 5 เม็ด
หอมแดง5 หัว
เห็ดฟางดอกเล็กๆ 7 ดอก
เห็ดนางรมดอกเล็ก4 ดอก
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่คั่ว7 กลีบ
กระเทียมไทยคั่ว9 กลีบ
น้ำปลาอย่างดี1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว2 ช้อนชา
น้ำปลาร้าต้มสุก2 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุก2 ช้อนโต๊ะ
ผักต้มสำหรับเป็นผักเคียง
กะหล่ำปลี1/4 ถ้วย
มะระต้มสุก1/4 ถ้วย
ดอกแคต้มสุก1/4 ถ้วย
ฟักทองนึ่งสุก1/4 ถ้วย
แตงกวาสด1/4 ถ้วย
บรอกโครี่1/4 ถ้วย
ข้าวซ้อมมือหุงสุก120 กรัม

พลังงานที่ได้รับ (โดยประมาณ) = 336 Kcal

วิธีทำ

1. คั่วพริก และกระเทียมบนกระทะด้วยไฟอ่อนจนมมีกลิ่นหอม ผึ่งให้เย็น
2. เสียบพริกหนุ่ม หอมแดง เห็ดฟาง เห็นนางรม ด้วยไม้ลูกชิ้น และนำไปย่างด้วยเตาถ่านใช้ไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอมและเปลือกไหม้ ลอกส่วนที่ไหม้ออก ผึ่งให้เย็น
3. โขลกพริกขี้หนูคั่ว กระเทียมคั่ว พริกหนุ่ม หอมแดง เห็นฟางและเห็ดนางรมย่าง พอหยาบ
4. เติมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำปลาร้า โขลกให้เข้ากันดี ใส่น้ำต้มสุก และผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
5. ตักน้ำพริกใส่ถ้วยเสริฟพร้อมผักลวก ทานพร้อมข้าวซ้อมมือหุงสุก