Mook

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ความเชื่อ(ที่ผิด)เกี่ยวกับการเกิดสิว

หลายคนมีกมีความเชื่อ หรือเชื่อจากการบอกว่าจากคนอื่นมาต่างๆนานา ว่าสิวเกิดขึ้นเพราะ.....แต่คุณสาวๆ ทราบหรือไม่ค่ะว่าอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้แท้จริงแล้ว อาการดังกล่าวที่เกิดสิวอาจจะเกิดขึ้นกับแค่บางคนเท่านั้น

1. กินช็อกโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ยืนยันว่า อาหารพวกช็อกโกแลต มันฝรั่งทอด ถั่วทอด พิซซ่า อาหารมัน ๆ น้ำอัดลม ไอศกรีม เป็นตัวกระตุ้นให้สิวขึ้น เคยมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์

โดยแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกไม่ให้กินช็อกโกแลตเลย อีกกลุ่มให้กินช็อกโกแลต ผลปรากฏว่า ไม่พบว่าอัตราการเกิดสิวในทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยยืนยันว่า อาหารบางชนิดกินแล้วสิวกำเริบก็ควรงดอาหารนั้น ๆ เป็นราย ๆ ไป นั่นก็แสดงให้เห็นว่า สิวที่เกิดจากการกินช็อกโกแลต นั้นเกิดเพียงบางคนเท่านั้น

2. เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น หรือทำให้สิวกำเริบ บางคนเชื่อว่า เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น ความเชื่อนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งยุโรปโบราณ ที่ว่าการแต่งงานทำให้สิวหายไปได้ แต่แท้ที่จริงผู้ที่แต่งงานแล้วอาจมีสิวหายไป

เพราะวัยที่แต่งงานนั้นผ่านพ้นวัยรุ่น จึงเป็นวัยที่พบสิวน้อยลง ในทางตรงกันข้ามบางคนเชื่อว่า สิวจะกำเริบเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่เป็นจริง การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้ฮอร์โมนเพศชายซึ่งเป็นต้นเหตุของสิว หลั่งออกมา จึงไม่เกี่ยวกับการเกิดสิว สรุปแล้วเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนทำให้สิวเลวลงหรือดีขึ้นแต่อย่างใด

3. แสงแดดทำให้สิวดีขึ้น แสงแดดอาจทำให้ดูเหมือนว่าสิวดีขึ้น เพราะแสงแดดทำให้ผิวไหม้แดงและคล้ำลง ช่วยบดบังรอยแดงรอยดำจากสิวอักเสบและรอยจากการอักเสบ

แต่แท้ที่จริงแล้วนอกจากแสงแดดจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังแล้ว แสงแดดยังทำให้ผิวระคายเคืองและสิวกำเริบ ข้อนี้สำคัญมากนะค่ะ หากไปตากแดดนานๆ อาจส่งผลร้ายต่อผิวมากกว่าที่จะทำให้สิวหาย แต่จะมีโรคร้ายตามมา เช่น มะเร็วผิวหน้ง เป็นต้น

4. ผิวมันทำให้สิวกำเริบ สิวไม่ได้เกิดจากผิวมัน แต่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่บุท่อรูขุมขนที่หลุดออกตามธรรมชาติ ไม่ถูกขจัดสู่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการตกค้าง เมื่อรวมกับไขมันที่ต่อมไขมันสร้างขึ้น จะก่อให้เกิดสิวอุดตัน

ฉะนั้น ผิวมันเป็นอาการ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากสาวๆที่มีใบหน้ามัน ก็ควรดูแลรักษาผิวหน้าหรือเลือครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวหน้าเพื่อการมีใบหน้าที่สวยสดใสด้วยนะค่ะ

5. การรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี วัยรุ่นเป็นวัยที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี เช่น ถ้าใช้ยาทา 2.5% benzoyl peroxide แล้วได้ผล ถ้าเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10% ก็น่าจะได้ผลมากขึ้นอีก

แต่ที่จริงแล้วถ้ายาความเข้มข้นต่ำได้ผลดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงขึ้น นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น การระคายเคืองมากขึ้นตามมาได้ อันตรายนะ ถ้าไปหายาใช้เอง ยังไงหากใครที่อยากใช้ยารักษาสิว ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำปรึษาดีกว่นะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น