Mook

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ความเชื่อ(ที่ผิด)เกี่ยวกับการเกิดสิว

หลายคนมีกมีความเชื่อ หรือเชื่อจากการบอกว่าจากคนอื่นมาต่างๆนานา ว่าสิวเกิดขึ้นเพราะ.....แต่คุณสาวๆ ทราบหรือไม่ค่ะว่าอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้แท้จริงแล้ว อาการดังกล่าวที่เกิดสิวอาจจะเกิดขึ้นกับแค่บางคนเท่านั้น

1. กินช็อกโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ยืนยันว่า อาหารพวกช็อกโกแลต มันฝรั่งทอด ถั่วทอด พิซซ่า อาหารมัน ๆ น้ำอัดลม ไอศกรีม เป็นตัวกระตุ้นให้สิวขึ้น เคยมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์

โดยแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกไม่ให้กินช็อกโกแลตเลย อีกกลุ่มให้กินช็อกโกแลต ผลปรากฏว่า ไม่พบว่าอัตราการเกิดสิวในทั้ง 2 กลุ่มแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยยืนยันว่า อาหารบางชนิดกินแล้วสิวกำเริบก็ควรงดอาหารนั้น ๆ เป็นราย ๆ ไป นั่นก็แสดงให้เห็นว่า สิวที่เกิดจากการกินช็อกโกแลต นั้นเกิดเพียงบางคนเท่านั้น

2. เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น หรือทำให้สิวกำเริบ บางคนเชื่อว่า เพศสัมพันธ์ทำให้สิวดีขึ้น ความเชื่อนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งยุโรปโบราณ ที่ว่าการแต่งงานทำให้สิวหายไปได้ แต่แท้ที่จริงผู้ที่แต่งงานแล้วอาจมีสิวหายไป

เพราะวัยที่แต่งงานนั้นผ่านพ้นวัยรุ่น จึงเป็นวัยที่พบสิวน้อยลง ในทางตรงกันข้ามบางคนเชื่อว่า สิวจะกำเริบเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งไม่เป็นจริง การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนกระตุ้นให้ฮอร์โมนเพศชายซึ่งเป็นต้นเหตุของสิว หลั่งออกมา จึงไม่เกี่ยวกับการเกิดสิว สรุปแล้วเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีส่วนทำให้สิวเลวลงหรือดีขึ้นแต่อย่างใด

3. แสงแดดทำให้สิวดีขึ้น แสงแดดอาจทำให้ดูเหมือนว่าสิวดีขึ้น เพราะแสงแดดทำให้ผิวไหม้แดงและคล้ำลง ช่วยบดบังรอยแดงรอยดำจากสิวอักเสบและรอยจากการอักเสบ

แต่แท้ที่จริงแล้วนอกจากแสงแดดจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังแล้ว แสงแดดยังทำให้ผิวระคายเคืองและสิวกำเริบ ข้อนี้สำคัญมากนะค่ะ หากไปตากแดดนานๆ อาจส่งผลร้ายต่อผิวมากกว่าที่จะทำให้สิวหาย แต่จะมีโรคร้ายตามมา เช่น มะเร็วผิวหน้ง เป็นต้น

4. ผิวมันทำให้สิวกำเริบ สิวไม่ได้เกิดจากผิวมัน แต่เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่บุท่อรูขุมขนที่หลุดออกตามธรรมชาติ ไม่ถูกขจัดสู่ผิวหนังด้านนอก ทำให้เกิดการตกค้าง เมื่อรวมกับไขมันที่ต่อมไขมันสร้างขึ้น จะก่อให้เกิดสิวอุดตัน

ฉะนั้น ผิวมันเป็นอาการ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของสิว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากสาวๆที่มีใบหน้ามัน ก็ควรดูแลรักษาผิวหน้าหรือเลือครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวหน้าเพื่อการมีใบหน้าที่สวยสดใสด้วยนะค่ะ

5. การรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี วัยรุ่นเป็นวัยที่ส่วนใหญ่เชื่อว่าการรักษาสิวนั้น ยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี เช่น ถ้าใช้ยาทา 2.5% benzoyl peroxide แล้วได้ผล ถ้าเพิ่มความเข้มข้นเป็น 10% ก็น่าจะได้ผลมากขึ้นอีก

แต่ที่จริงแล้วถ้ายาความเข้มข้นต่ำได้ผลดี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงขึ้น นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น การระคายเคืองมากขึ้นตามมาได้ อันตรายนะ ถ้าไปหายาใช้เอง ยังไงหากใครที่อยากใช้ยารักษาสิว ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำปรึษาดีกว่นะค่ะ

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีการสร้างสุขด้วยหน้าใสๆ


- ดื่มน้ำมากๆ ที่เขาว่าให้ดื่มวันละ 6-8 แก้วน่ะ ให้คุณมากกว่านั้นได้ ก็จะเป็นการดี
และยิ่งถ้าเป็นน้ำเปล่าด้วย จะยิ่งดีใหญ่ หากคุณชอบดื่มน้ำอัดลม ขอบอกว่าควรเลิกดื่มได้แล้วละค่ะ เพราะในน้ำอัดลมมีแต่น้ำตาลและแก๊ส

- ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ บริหารตัวแล้วอย่าลืมบริหารหน้า นวดหน้าด้วยนะคะ ตัวเต่งตึงแต่หน้าเหี่ยวละก้อ หมดกัน!

- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล งดน้ำชา กาแฟ งดสูบบุหรี่ เพราะมันจะทำให้ คุณแก่เกินอายุค่ะ ใครจะเถียงคอเป็นเอ็นละก้อ .... เดี๊ยนท้าให้คุณที่สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟจัดๆ ลองเดินคู่กันเพื่อนที่ไม่ดื่ม ไม่สูบ แล้วถามคนอื่นๆดูว่า คุณกับ เพื่อนใครแก่กว่าใคร (ข้อสำคัญ เขาต้องไม่รู้จักเพื่อนคุณมาก่อนนะคะ เพื่อป้องกันการลำเอียง)...... พึงระลึกไว้เสมอว่าอย่าเข้าข้างตนเอง แต่ให้คนอื่น ที่เขาหวังดีต่อคุณ มองคุณจะดีกว่าค่ะ

- อย่าตากแดดเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดที่แรงจัดเป็นเวลานานๆ มิเช่นนั้นหน้าของคุณจะแก่ไม่รู้ตัวเชียวค่ะ

- ใช้โลชั่นอย่างเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความเสี่ยง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อม ที่จะทำให้แก่ เช่น อยู่แต่ในห้องแอร์ ที่เปิดเบอร์เดียว หนาวจัดตลอดปี ตลอดชาติ หากแอร์ของคุณปรับได้ กรุณาปรับเถอะค่ะ เพราะบางบริษัทเปิด แอร์เย็นแบบทุกข์ทรมาน พนักงานนั่งสั่น ใส่เสื้อหนาวกันโดยทั่วหน้า ก็ในเมื่อมันทุกข์ขนาดนั้น จะต้องเปิดให้มันทรมานทำไม เฮ้อ คนไทยหนอ คนไทย !!!!

- ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แล้วยิ่ง หาก คุณเป็นสิวด้วยแล้วละก้อ ให้คุณใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะ สำหรับการ รักษาสิวเท่านั้น โฟมที่มีส่วนผสมของ เอ เอช เอ จะช่วยทำให้ใบหน้า ของคุณ ลื่นขึ้น ที่สำคัญห้ามแกะสิวอย่างเด็ดขาด คนที่เป็นสิวเสี้ยน

หากยิ่งแกะ ผิวของ คุณหลังแกะก็จะคล้ายกับโลกพระจันทร์ ส่วนบรรดาสิวมีหนองทั้งหลาย หากยิ่งแกะก็จะยิ่งเกิดการอักเสบ สิว เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ใบหน้า ของคุณ ดูเครียด และแก่ได้โดยเฉพาะบรรดาผิวโลกพระจันทร์ทั้งหลายค่ะ

- ขัดหน้าด้วยตนเอง โดยการใช้สครับ หากคุณเป็นคนผิวมัน ให้ขัดอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้นโดยขัดนานๆบริเวณดั้งจมูก และคางที่มีสิวเสี้ยน

- หากคนเป็นคนผิวแห้ง ควรใช้มอยซเจอร์ไรส์เซอร์ก่อนนอนทุกครั้ง หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่แห้งเป็นพิเศษ ควรใช้โลชั่นที่มี เอ เอช เอให้ทั่วบริเวณ แต่หากคุณเป็นคนหน้ามัน ควรใช้มอยซ์เจอร์ไรส์ชนิดเจล จะเหมาะกว่าชนิดครีม

- อย่าใช้มืออันแสนสกปรกในช่วงวันไปสัมผัสบนใบหน้า จำไว้ว่าทุกครั้งเมื่อ ไปถึงที่ทำงาน หรือทันทีที่กลับถึงบ้านให้คุณล้างมือก่อนเสมอ ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันการที่คุณจะเผลอเอามือไปจับหน้าจับตาให้สิวขึ้นได้

- ล้างเครื่องสำอางออกอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยให้คุณล้าง มาสคารา หรืออายแชโดว์ด้วยเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อมิให้น้ำมัน ที่ว่าแทรกซึมไปตามผิวหนังส่วนอื่นๆ อันจะชัดนำให้สิวพากันมาขึ้นพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย

- หากคุณมีปัญหาเรื่องผิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ให้คุณ ปรึกษา แพทย์โรคผิวหนังที่ชำนาญเท่านั้น อย่าได้มัวเสียเวลาไปหา ที่ปรึกษา ความงามตามเคาน์เตอร์ต่างๆ ใครจะมารู้ดีกับคนที่เชี่ยวชาญ เฉพาะทาง ล่ะเป็นไม่มี

ชอบหม่ำสาหร่ายทะเลต้องระวัง

ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ "สาหร่ายทะเลแห้ง" เป็นสินค้าอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีนและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณสูง สาหร่ายทะเลแห้งที่จำหน่ายในท้องตลาด มีการปรุงแต่งรส และกลิ่นให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในวันนี้ สาหร่ายทะเลแห้งกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากตรวจพบการปนเปื้อนที่มีนัยสำคัญทางสถิติและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับประทาน

ในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า สถาบันอาหารได้ตรวจสอบพบในตัวอย่างที่สุ่มมาตรวจมีสารแคดเมียมปนเปื้อนเกิน 2 มก./กก. ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานที่หลายประเทศกำหนดไว้ โดยปกติสาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีขีดความสามารถในการดูดซับสารที่อยู่ในทะเลได้มาก ดังนั้น หากบริเวณที่สาหร่ายทะเลขึ้นอยู่มีสารปนเปื้อนที่เป็นพิษสูง สาหร่ายก็จะดูดซับสารเหล่านั้นเข้ามาไว้ เมื่อนำมาบริโภคก็จะเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้ แต่คนไทยไม่ได้บริโภคสาหร่ายทะเลเป็นอาหารหลักเหมือนกับญี่ปุ่น หรือ จีน และไม่ได้บริโภคกันในปริมาณมากนัก เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค จึงควรรับประทานสาหร่ายแห้งในปริมาณที่ไม่มาก และติดต่อกันนานเกินไป รวมทั้งต้องบริโภคอาหารอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย และลดโอกาสในการได้รับสารพิษจากสาหร่ายทะเลแห้งเพราะแคดเมียมเป็นสารที่ร่างกายสามารถขับออกมาได้ตามธรรมชาติ"
ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ แต่ละประเทศจะมีมาตรฐานของการปนเปื้อนสารแคดเมียมในปริมาณที่แตกต่างกัน เแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับไม่เกิน 2 มก./กก. ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารไว้ แน่ชัด แต่ได้กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อนในน้ำดื่มว่า หากเป็นน้ำตามแหล่งธรรมชาติจะกำหนดไม่ให้เกิน 0.003 พีพีเอ็ม และหากเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดจะต้องไม่เกิน 0.005 พีพีเอ็ม

จากเรื่องสาหร่ายทะเลแห้งก็มาถึงเรื่องความปลอดภัยในอาหารการกินอื่นๆ กันบ้าง เพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการปนเปื้อนน้อยลงลดลง โดยในกลุ่มอาหารสด เช่น สารเร่งเนื้อแดง สารฟอกสี สารกันรา บอแรกซ์ ฟอร์มาลิน และสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้ายืนยันได้ว่าเนื้อสัตว์และพืชผักทั้งหลายที่จำหน่ายตามท้องตลาดมีความปลอดภัยต่อการบริโภคมากน้อยเพียงใด

มีการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือไม่อย่างไร ทางที่ดีจึงต้องใช้แนวทางของตนเป็นที่พึ่งแห่งตน โดยหันมาลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองเลือกกินผักผลไม้พื้นบ้านในท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมทั้งช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าจะปลอดภัยที่สุด

วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

เคล็ดลับ....พิชิตใจหนุ่มๆ ให้อยู่กับคุณไปนานๆ

ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยความรัก การที่คนสองคนรักกันตกลงใช้ชีวิตคู่กันนั้นถือเป็นเรื่องที่ยากนะค่ะ แต่ถ้าจะให้ชีวตคู่นั้นอยู่ไปนานๆ นั้นยากกว่าค่ะ คนสองคนต่างเพศมาจากต่างที่พื้นฐานทางจิตใจต่างกัน

เมื่ออยู่กันไปนานก็อาจจะมีบางอย่างที่เริ่มทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่ และอาจจบลงด้วยคำว่าเลิกรา....แต่ถ้าคุณสาวๆ อยากพิชิตใจหนุ่มๆ ให้อยู่กับคุณไปนานละก็ลองมาดูเคล็ดลับ 5 ข้อ นี้สิค่ัะ อาจจะช่วยให้คุณประคับประครองความรักของคุณทั้งสองให้รักกันไปนานแสนนาน

ข้อที่ 1 : ขุ้ยเรื่องบนเตียงของถ่านไฟเก่า

รู้อยู่แล้วแหละว่า ต้องเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนเก่าของคุณ แต่อย่าให้เค้ารู้ซิว่า ช่ำชองแค่ไหน หากคุณนำเรื่องนี้มาเล่าให้แฟนใหม่ฟัง มันไม่ดีแน่นอน รู้น่ะว่า คบกันห้ามมีความลับ ความปิดบัง แต่เรื่องนี้เงียบนิสนึง หากเค้าอยากให้คุณขุดเรื่องนี้มาเล่า เพื่ออะไรก็ตาม บอกเค้าว่า ฝันไปเถอะ ปัจจุบันสำคัญกว่าอดีต เรื่องที่ผ่านมาแล้ว อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยค่า

ข้อที่ 2 : ใช้เงินเก่ง ช้อปกระจาย

จำไว้ใส่สมองเลยนะคะ เงินไม่ได้หากันได้ง่ายๆ สาวเราเวลาช้อปที(เงิน)กระจายค่ะ นิสัยโรคจิต บางคนซื้อแล้วซื้ออีก นั่นก็สวย นี่ก็เซลล์(sale) ช้อปเพลินซะจนคิดเข้าข้างตัวเองว่า เงินหาย พอกลับมาทบทวนความจำอีกที ก็ถึงบางอ้อ อ้าว.. หมดตังค์ไปกับเสื้อผ้า เครื่องสำอางพวกนี้นี่เอง

ถ้าคุณแฟนรู้ละยุ่งเลย อาจโดนประณามได้ว่า ใช้จ่ายเกินตัว สุรุ่ยสุร่าย เทศน์ยาวล่ะ..งานนี้ หากเบื่อคำพูดเหล่านี้ ก็จงเก็บความลับนี้เชียว รีบหาซ่อนด่วนๆ หรือไม่ก็แอบช้อปขณะเขาทำงานหัวหมุนก็ได้ แต่พึงสังวรหน่อยก็ดีคะ ช่วยกันเก็บเงินเก็บทองใช้จ่ายอย่างพอเพียงอย่างมีปร ะโยชน์จะดีกว่านะจ๊ะ

ข้อที่ 3 : เม้าท์เรื่่องครอบครัวแฟนเรา

เรื่องภายในครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนคะ เห็นมาเยอะ ภรรยากับแม่สามีเกลียดกัน จนเอาพล็อตมาทำละครน้ำเน่าหลังข่าวเยอะแยะไปหมด หากคุณไม่ชอบคนในตระกูลเค้า แนะนำให้สงบปากสงบคำบ้างก็ดี เพราะมันจะทำให้แฟนคุณกระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นี่ก็เมีย นั่นก็แม่ นี่ก็พ่อ ญาติโกโหติกาเค้า

ไม่ชอบอะไรเก็บไว้ในใจ หรือไม่ก็แปลงคำพูด คิดประโยคให้สละสลวยมีเหตุมีผล ก่อนใช้อารมณ์พูดออกมาอย่างไม่ยั้งคิด เมื่อคุณเป็นแฟนเค้าแล้ว ครอบครัวเค้าก็เท่ากับเป็นของคุณเหมือนกันคะ

ข้อที่ 4 : แอ๊บเหล่หนุ่มๆ หน่อยก็ดี

การเล่นหูเล่นตากับชายอื่น หรือการบริหารเสน่ห์นั้น มันอาจทำให้ผู้หญิงอย่างเรากระชุ่มกระชวยได้บ้าง แต่หากแฟนคุณรู้ละก้อ งานเข้าแน่ๆ คุณจะได้รู้ซะทีว่า "หมาหวงห้าง" มันเป็นยังไง ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้หรอกนะะพวกผู้ชายเนี้ย

เก็บอาการไว้หน่อยนะสาวๆ รู้ว่าชอบกรี๊ดหนุ่มๆ เมื่อต้องสเป็ก แต่สงวนตัวหน่อยนะคะ อย่าลืมสถานะตัวเองว่า มีแฟนแล้ว

ข้อที่ 5 : อย่ายี้ เมื่อเขาให้ของ

คุณผู้ชายมักไม่มีทางรู้หรอกว่าแฟนสาวของคุณชอบอะไร คุณอย่าปฏิเสธเมื่อเค้าให้ของเด็ดขาด เพราะครั้งต่อไปอาจพลาดหมด ไม่ได้อะไรสักอย่าง ของเล็ก หรือใหญ่มีคุณค่าทางจิตใจทั้งสิ้น ปฏิเสธ "ของ" มีค่าเท่ากับปฏิเสธ "เขา"

ค่อยๆ บอกดีกว่า คุณชอบอะไร ครั้งหน้าอาจสมใจใจปรารถนา อย่าปากเร็วด่วนจี๋ว่า ไม่เอาเด็ดขาด ไม่ชอบงั้นงี้ มันอาจทำให้เขาสุดเซ็ง เสียกำลังใจ ตั้งใจซื้อของมาให้แต่คุณกลับทำหน้าเบ้ซะอย่างน้าน ถนอมน้ำใจกันไว้คะ เดี๋ยวชวดหมดทั้งคนทั้งของไม่รู้ด้วย

น้ำพริกเห็ดฟางนางรม

เครื่องปรุง

พริกหนุ่ม 5 เม็ด
หอมแดง5 หัว
เห็ดฟางดอกเล็กๆ 7 ดอก
เห็ดนางรมดอกเล็ก4 ดอก
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่คั่ว7 กลีบ
กระเทียมไทยคั่ว9 กลีบ
น้ำปลาอย่างดี1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว2 ช้อนชา
น้ำปลาร้าต้มสุก2 ช้อนโต๊ะ
น้ำต้มสุก2 ช้อนโต๊ะ
ผักต้มสำหรับเป็นผักเคียง
กะหล่ำปลี1/4 ถ้วย
มะระต้มสุก1/4 ถ้วย
ดอกแคต้มสุก1/4 ถ้วย
ฟักทองนึ่งสุก1/4 ถ้วย
แตงกวาสด1/4 ถ้วย
บรอกโครี่1/4 ถ้วย
ข้าวซ้อมมือหุงสุก120 กรัม

พลังงานที่ได้รับ (โดยประมาณ) = 336 Kcal

วิธีทำ

1. คั่วพริก และกระเทียมบนกระทะด้วยไฟอ่อนจนมมีกลิ่นหอม ผึ่งให้เย็น
2. เสียบพริกหนุ่ม หอมแดง เห็ดฟาง เห็นนางรม ด้วยไม้ลูกชิ้น และนำไปย่างด้วยเตาถ่านใช้ไฟอ่อนๆ จนมีกลิ่นหอมและเปลือกไหม้ ลอกส่วนที่ไหม้ออก ผึ่งให้เย็น
3. โขลกพริกขี้หนูคั่ว กระเทียมคั่ว พริกหนุ่ม หอมแดง เห็นฟางและเห็ดนางรมย่าง พอหยาบ
4. เติมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำปลาร้า โขลกให้เข้ากันดี ใส่น้ำต้มสุก และผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
5. ตักน้ำพริกใส่ถ้วยเสริฟพร้อมผักลวก ทานพร้อมข้าวซ้อมมือหุงสุก


วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2553

สุดยอดอาหาร ที่ทำให้ อารมณ์ดี


- ปลาซัลมอนและแม็กคาเรล ปลา 2 ประเภทนี้มีโอเมก้า 3 อยู่เยอะมาก ดังนั้นจึงแนะนำกันว่าเป็นอาหารที่เยี่ยมมากสำหรับมื้อดินเนอร์ ที่สำคัญมีการวิจัยมาแล้วว่าโอเมก้า 3 มีผลกับอารมณ์ของคนเรา นอกเหนือจากที่โอเมก้า 3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง ที่ดีไปกว่านั้นซัลมอนยังเต็มไปด้วยเซเลเนียมที่เป็นสาระสำคัญในการต่อต้าน อนุมูลอิสระด้วย

- คาโนลาออยล์ (Canola Oil) เป็นน้ำมันจากดอกคาโนลาซึ่งกำลังได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเต็มไปด้วยวิตามินอีซึ่งมีผลต่อระดับอารมณ์ของคนเรา แต่ด้วยความที่ในน้ำมันจะมีไขมัน ทำให้แนะนำกันว่าให้รับประทานได้ไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม โดยพยายามใช้น้ำมันนี้เวลาคุณทอดปลาซัลมอนหรือทำอาหารสุขภาพรับประทาน

- ผักโขมและถั่วสด ในผักใบสีเขียวเข้มอย่างผักโขมหรือถั่วนั้นมีโฟเลตสูง ซึ่งช่วยให้อารมณ์ของคนเราอยู่ในระดับปกติ เนื่องจากโฟเลตมีส่วนสำคัญในการสร้างเซโรโทนิน นอกจากนั้นการรับประทานถั่วยังได้รับวิตามินซีและไฟเบอร์ด้วย แต่มีคำแนะนำว่าถั่วกระป๋องจะมีสารอาหารน้อยกว่าถั่วสด ดังนั้นถ้าเป็นไปได้คุณควรเลือกรับประทานถั่วสด ๆ เพื่อสารอาหารที่เต็มที่...ผสมถั่วลงในทูน่าสลัด หรือเพิ่มผักใบเขียวในชามสลัดของคุณก็จะเป็นมื้ออาหารที่ไม่เลวเลยทีเดียว

- ถั่ว Chickpeas เป็นอาหารที่มีโฟเลตสูงแต่ไขมันต่ำ และสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์สามารถที่จะทานถั่วชนิดนี้แทนได้ เพราะ มีโปรตีนอยู่สูง แถมมีรสอร่อย นอกจากนั้นชิกพียังมีไฟเบอร์, ไอออน และวิตามินอีอยู่เยอะ มีคำแนะนำการประกอบอาหารง่าย ๆ จากถั่วชิกพีมาด้วยว่า ให้นำชิกพีกระป๋องมาเทเอาน้ำออก ผสมกระเทียมสับใส่ลงไป ใส่น้ำมะนาว และน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันคาโนลา ปั่นในเบลนเดอร์หรือเครื่องผสมอาหาร เติมเกลือพริกไทยหรือเครื่องปรุงรสที่ชอบ แค่นี้ก็จะได้อาหารสุขภาพที่นำมาจิ้มรับประทานกับผักสดได้อร่อย

- ไก่ เป็นอาหารที่มีวิตามินบี 6 อยู่มาก ซึ่งโดยหลักแล้วจะช่วยสร้างเซโรโทนินขึ้นในร่างกายของเรา นอกจากนั้นในไก่ยังเป็นแหล่งของเซเลเนียม วิตามินและสารอาหารอื่น ๆ ด้วย เพียงแต่ต้องคำนึงถึงนิดหนึ่งว่าการรับประทานหนังไก่จะช่วยเพิ่มไขมันให้กับ เราไม่น้อยเช่นกัน ฉะนั้นเลือกรับประทานอกไก่ที่ปราศจากหนังดีกว่าค่ะ เพราะให้พลังงานเพียง 106 แคลอรี/3.5 ออนซ์ (ประมาณครึ่งอก) เท่านั้น

UP วิตามินให้ผิวผ่องกันเถอะ

ห็นหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่แต่ละคนผิวใสเหมือนหยวกกล้วยกันทั้งนั้นเค้าจะมีเคล็ดลับอะไรหนอ ถ้าจะไปพึ่งศัลยกรรมก็กลัว อย่าถึงกระนั้นเลย มาเริ่มต้นที่อาหารการกินดีกว่า เพื่อผิวสวยผ่องท่องเอาไว้ วิตามิน A, B, C, E, K คือสิ่งที่เราต้องมองหา


วิตามิน C, E สำหรับสาวทนแดด

สำหรับสาว ๆ เมืองร้อนอย่างเรา วิตามินซีและอีนี่ล่ะที่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงปกป้องผิวจากแสงแดดและป้องกัน ผิวจากแสงแดดและป้องกันไม่ให้ผิวไหม้ โดยวารสาร Investigative Dermatology เปิดเผยว่า คนที่กินวิตามินซีและอีเป็นเวลานานจะช่วยลดรอยไหม้ จากการสัมผัสกับรังสี UVB ได้ด้วยนะ

- วิตามิน C หาได้ทั่วไปจากผลไม้ตระกูลส้ม หรือผักต่าง ๆ อย่าง พริกหวาน บร็อกโคลี่ กะหล่ำดอก ผักใบเขียว ถ้าใครชอบความสะดวกสบาย อยากกินวิตามินเสริมก็ควรกินในปริมาณ 500 - 1000 มิลลิกรัมต่อวัน

- วิตามิน E อยู่ในน้ำมันพืช ถั่ว เมล็ดพืชต่าง ๆ มะกอก ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง ส่วนคนที่มองหาแคปซูลก็ต้องเตือนกันตรงนี้ว่า วิตามินอีค่อนข้างอันตรายในปริมาณ 400 มิลลิกรัมต่อวันอาจช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูสภาพผิว แต่เราควรจะปรึกษาคุณหมอก่อนกินนะคะ

วิตามิน A เพื่อผิวชุ่มชื้น

ที่เราท่องกันตอนเด็ก ๆ "เอตา ชาบี.." ความจริงแล้ววิตามินเอมีหน้าที่มากกว่านั้น ถ้าหากไม่มีวิตามินเอละก็ บอกลาผิวที่เต่งตึงไปได้เลย เพราะผิวของเราจะแห้งผาก และกลายเป็นขุย ๆ เนื่องจากวิตามินเอมีส่วนสำคัญมากกับการฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของผิว ช่วยให้เซลล์เติบโต หากเราขาดวิตามินชนิดนี้ไปบ้าง ผิวหนังของเราก็จะเริ่มหยาบกร้านแล้วนะ นอกจากนี้ อาหารที่มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นวิตามินเอชนิดหนึ่ง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เราเป็นโรคสะเก็ดเงินได้

- วิตามิน A สามารถหาได้จากตับลูกวัว นม ไข่ แครอต มะเขือเทศสุก ผักโขม พริกหวานสีแดง ผักคะน้า และ แคนตาลูป สำหรับ แคปซูล แล้ว วัยรุ่นกับว่าที่คุณแม่ไม่ควรกินเกินว่า 2,800 IU ส่วนคนที่กินมากเกินไปอาจทำให้ท้องร่วง อาเจียน หรือมีอาการอื่น ๆ ได้

วิตามิน B รากฐานของผิวที่ดี

ถ้าเป็นเรื่องของผิวที่กระจ่างใสแล้ว จะไม่พูดถึง วิตามินบี ไบโอติน คงเป็นไปไม่ได้ วิตามินชนิดนี้ เป็นสารอาหารที่จะกลายมาเป็นผิวหนัง เล็บ และเซลล์เส้นผม ถ้าไม่ได้รับมากเพียงพอ โรคผิวหนังจะถามหา ตั้งแต่อาการคัน ผิวถลอก แดง แสบ บางครั้งก็อาจมีผมร่วงด้วย (น่ากลัวใช่มั้ยล่ะ)

- วิตามิน B หาได้ง่าย และเราส่วนใหญ่มีมากเพียงพอโดยไม่ต้องหาที่ไหนเพิ่ม พบได้ในอาหารอย่างกล้วย ไข่ ข้าว และข้าวโอ๊ต แถมร่างกายยังสร้างเองได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วงนัก

วิตามิน K ลบล้างรอยช้ำ

เรารู้กันดีว่าวิตามินชนิดนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เลือดอุดตัน ทีนี้งงใช่มั้ยล่ะคะว่ามาเกี่ยวข้องกับผิวสวยของเราได้อย่างไร ? คำตอบก็คือ วิตามินเคจะช่วยบรรเทารอยหมีแพนด้าและรักษารอยฟกช้ำได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายเราไม่ได้ต้องการวิตามินแคมากมายแค่ 100 ไมโครกรัมต่อวันก็เพียงพอแล้ว

- วิตามิน K หาได้จากผักใบเขียว น้ำมันถั่วเหลือง กาแฟ ลูกแพร เนื้อสัตว์ นม และเนย นอกจากนี้ ลำไส้เล็กของเราก็สร้างวิตามินเคได้เองอีกด้วยนะ

**อาหารเสริมและวิตามินรวมจำเป็นต้องกินให้ผิวสวยรึเปล่า ?

อาหารเสริม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เสริม เราไม่จำเป็นต้องกินวิตามินรวมทุกชนิดที่วางขายในท้องตลาด แต่เลือกกินอย่างชาญฉลาดเพื่อที่จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่สิ่งที่เรา ต้องใส่ใจก็คือการดื่มน้ำให้มาก ๆ และกินอาหารดี ๆ มีประโยชน์ แล้วค่อยตามด้วยวิตามินเสริมต่างหาก

หมั่น ตรวจตรา ดูแลร่างกายตัวเอง เดือนละครั้ง สละเวลามาสำรวจไฝหรือปานบนร่างกาย อย่าลืมให้เพื่อนดูที่หนังศีรษะ ของสงวน และใต้ฝาเท้าด้วย ไฝและปานที่มีสีหรือรูปร่างผิดปกติอาจนำไปสู่มะเร็งผิวหนังได้นะ

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ตลาดน้ำอัมพวา

ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้
ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น"

สิ่งที่น่าสนใจ
ตลาดน้ำยามเย็น
จะมีทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.00 -22.00 น.วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.
ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ล่องเรือชมหิ่งห้อย
นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์จะนั่งเรือชมหิ่งห้อย ประกายความงามยามค่ำคืน หรือล่องเรือท่องเที่ยวตามลำน้ำแม่กลอง
ก็สามารถติดต่อเรือได้ ติดต่อ โทร.089-4154523

การเดินทาง

  • ทางรถยนต์
    จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้า อ.อัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร. ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา
  • รถประจำทาง
    จากสถานีขนส่งสายใต้
    รถสาย 996 กรุงเทพฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดสมุทรสงครามถึงตลาดอัมพวา
    สาย 976 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก
    ถึงตลาดอัมพวา

Pana Cotta Milk Honey


Pana Cotta Milk Honey

ส่วนประกอบ

1. วนิลาพานาคอตต้า :
- นมสด 2 ½ ถ้วย
- ดับเบิ้ลครีม หรือวิปปิ้งครีม ½ ถ้วย
- ผงเจลาติน 2 ½ ช้อนชา
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา หรือ วนิลา 1 ฝัก ผ่าเอาเม็ดออกใส่ลงในนม

2. ฮันนี่เจลลี่
- น้ำเย็น 1 2/3 ถ้วย
- น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย
- เจลาตินผง 3 ช้อนชา
- พีชกระป๋อง

ขั้นตอนการทำ

ฮันนี่เจลลี่ : เทน้ำและน้ำผึ้งลงในหม้อ โรยด้วยผงเจลาตินแล้วทิ้งไว้ 5 นาที ยกขึ้นตั้งไฟต่ำ แล้วคนอย่างสม่ำเสมอจนเดือด และเจลาตินละลาย พักไว้ให้หายร้อน

วนิลาพานาคอตต้า : เอานม ครีม วนิลา และน้ำผึ้งเทลงในหม้อ โรยเจลาตินลงไป ทิ้งไว้ 5 นาที ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ แล้วคนอย่างสม่ำเสมอจนเจลาตินละลายและเริ่มเดือด ยกลงจากเตาพักไว้

เตรียมแก้วที่จะนำมาเป็นภาชนะใส่ เทฮันนี่เจลลี่ที่ทำเสร็จแล้วครึ่งหนึ่งใส่แก้วที่เตรียมไว้ จากนั้นนำเข้าตู้เย็น แช่ไว้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เมื่อฮันนี่เจลลี่เซ็ตตัวดีแล้ว เติมพานาคอตต้า 1 ส่วน (ของพานาคอตต้าทั้งหมด) ลงไปในแก้ว เพื่อทำเป็นชั้นๆ

จากนั้นนำกลับไปแช่อีก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ทำซ้ำด้วยฮันนี่เจลลี่ และพานาคอตต้าอีก 2 ชั้น พอได้ที่แล้วก็เอาออกจากตู้เย็น วางไว้ในอุณหภูมิห้องสักครู่ เพื่อให้เจลลี่คลายตัว เติมพีชกระป๋องด้านบน เรียบร้อยแล้ว ของหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน B.

วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2553

วิธีจูงใจให้เขาเห็นชอบและทำตามคุณแต่โดยดี

วิธีที่ 1 มีแต่ได้กะได้

วิธีนี้ต้องอาศัยฝีปากของคุณระบายข้อดีที่มีแต่ได้กะได้ของคุณและเขา แบบว่าคุณกำลังของบประมาณสนับสนุนในการเข้าคอร์สลดน้ำหนักจากเขา ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย คุณจึงจำเป็นต้องชี้ชวนให้เขาเหนดีเหนชอบแบบว่าคุ้มค่ากะเงินที่เสียไป คุณได้รูปร่างที่เพรียวกระชับลง ส่วนเขาก็จะได้แฟนคนเดิมแต่ลุคส์ใหม่ที่ผอม สวยใส ไฉไลกว่าเดิมไง

วิธีที่ 2 ยื่นหมู ยื่นแมว

วิธีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนแบบไม่มีฝ่ายใดเสียหรือฝ่ายใดได้แต่ ฝ่ายเดียวถือ เป็นวิธีการเจรจาที่แฟร์และลงเอยอย่างประนีประนอมแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ ขุ่นอย่างเช่น หากเขายอมทำสิ่งนี้ให้คุณ คุนจะยอมให้เขาหอมแก้มฟอดใหญ่ๆหลายๆฟอดเปนการตอบแทน

วิธีที่ 3 แสดงข้อดีให้เห็นชอบโดยสมัครใจ

แม้เหรียญจะมี2ด้าน แต่ถ้าจะให้เขาเหนด้วยและคล้อยตาม คุณจำเป็นต้องโชว์แต่ด้านดีให้เขาเหนมากที่สุด ส่วนอีกด้านที่ไม่เป็นประโยชน์แก่การจูงใจเขา คุณก็อาจโชว์ให้เขาเห็นได้คร่าวๆ ว่ามันก็พอมีข้อเสียอยู่บ้าง

แต่ถ้าหักลบกลบหนี้แล้วพบว่ามีข้อดีและประโยชน์ที่ตามมาของสิ่งที่คุณ พยายาม ให้เขาเลือกและตัดสินใจตามนั้น อย่าพยายามยัดเยียดหรือคิดเองเออเองว่าเขาจะเหนชอบ เห็นด้วย และคิดตามคุน เพราะนั่นเท่ากับเป็นการไม่เคารพความเหนและการมีตัวตนของเขา แต่พยายามพรีเซ้นต์ให้เขาคิดเหนชอบโดยสมัครใจดีกว่าค่ะ

วิธีที่ 4 แสดงให้เห็นว่าเป็นความปรารถนาที่สุดของคุณ

ของบางอย่างหรือเรื่องบางเรื่อง ถ้าคนรักอย่างคุณย้ำให้เขาได้ยินอยู่บ่อยๆหรือแสดงให้เขาเหนว่าคุณสนใจและ อยากจะได้มานานแล้ว คุณก็ทำให้เขาเหนอากัปกิริยาของคุณที่มีต่อของชิ้นนั้นอยู่บ่อยๆ แล้วเขาจะเข้าใจเองว่าคุณอยากได้ของชิ้นนั้นแบบสุดๆเชื่อว่าเทศกาลแห่งการ ให้ครั้งต่อไป เขาต้องเอามันมาเซอร์ไพรส์คุณแน่นอน

วิธีที่ 5 ประชดด้วยสิ่งที่เขาไม่ชอบ

การหว่านล้อมด้วยเหตุผลและวาทศิลป์ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ไร้ ประโยชน์และเสีย เวลาเอามากๆกับผู้ชายหัวแข็งที่ดื้อดึงมันจึงจำเป็นต้องแกล้งด้วยยุทธวิธี ที่ทำให้เขาไม่พอใจจนเขาต้องยอมจำนนทำตาม ความต้องการของคุณ

แม้ไม่สมัครใจก็ตาม หากเขายังดื้อดึงไม่ทำตามความปรารถนาของคุณแต่โดยดี คุณก็งัดวิธีประชดนี้ขึ้นมาจนเขาทนไม่ไหว ขอให้คุณหยุดประชดประชันจนเขายินยอม กับคำขอความปรารถนาที่เขาออกจะไม่เห็นด้วยของคุณ

วิธีที่ 6 ย้ำคำมั่นสัญญาความรักเดิมของเขา

โดยเฉพาะตอนสวีทกันใหม่ๆ ผู้ชายมักจะพร่ำย้ำว่า...เขารักคุณมากแค่ไหน...อะไรที่คุณอยากได้ เขาก็สามารถทนความลำบากฝ่าความลำบนไปไขว่คว้าหามาให้คุณจนได้ คำพูดในอดัตของเขานี่แหล่ะที่จะสามารถมัดและบังคับตัวเขาได้ค่ะ

วิธีที่ 7 ใช้ความรักเปนตัวประกัน

ถ้าเขาไม่ยอมให้คุณก็ถือเป็นเรื่องที่รักและคบกันต่อไปไม่ได้ แต่โปรดอย่าใช้วิธีนี้พร่ำเพรื่อ เพราะเดี๋ยวเขาจะไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของการขู่เลิก หากถ้าไม่ทำตามดังที่คุณประสงค์แล้ว

เขาจะคิดว่าคุณใช้มุขนี้ในการจูงใจเจรจาเขาอยู่ตลอด จนเขาเฉยเมยต่อคำขู่ของคุณ เพราะเหนว่าคงขู่ไปอย่างนั้นและคงไม่กล้าเลิกจิงๆหรอก ซึ่งถ้าคุณขู่จนเขารู้สึกอย่างนั้น ก็ระวังว่าต่อไปคุณจะจูงใจชักนำให้เขาคล้อยตามคุณได้ไม่ง่ายหรอกนะ

ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับเรื่องอาหาร


- งดมื้อเช้า

ถ้า ใครกําลังทําอยู่ก็เลิกซะ เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สําคัญมาก นอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานให้คุณสู้งานได้อย่างไม่มีถอยแล้ว ยังช่วยให้ไม่หิวมากด้วยก่อนที่จะถึงมื้อต่อไป

- งดกินทุกอย่างก่อนออกกําลังกาย
ไม่ ควร เพราะร่างกายต้องการพลังงานเพื่อนํามาใช้ในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น ก่อนออกกําลังกายควรกินพวกอาหารที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (เพราะมีไฟเบอร์มากและไขมันต่ำด้วย) อย่างโยเกิร์ต นมถั่วเหลือง หรือขนมปัง

- หลังออกกําลังกาย
ควร เว้นช่วงนานๆ แล้วจึงค่อยกิน จริงๆ แล้ว ไม่ต้องเว้นไว้นานขนาดนั้นก็ได้ กินหลังจากออกกําลังกายไปแล้ว 1 ชั่วโมงก็โอ.เค.แล้ว และควรเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรเชิงซ้อน เพราะจะได้ไปช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญและช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น

- กินขนมที่มีส่วนประกอบของโปรตีนหรือโปรตีนเชคแทนข้าว
อาหาร ขบเคี้ยวเหล่านี้ใช่ว่าจะไม่มีแคลอรีหรือไขมันเลยนะคะ อีกทั้งโปรตีนเชคนั้นก็ไม่มีไฟเบอร์ สรุปแล้วไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้กินอาหารจริงๆ

- เชื่อมั่นในฉลาก
อย่า เชื่อในทุกๆ สิ่งที่คุณได้อ่าน โดยเฉพาะฉลากที่ติดอยู่ข้างๆ ขวดเครื่องดื่ม เพราะยังมีอีกหลายๆ โรงงานที่ขาดการควบคุมที่เคร่งครัดอยู่ ทางที่ดี ก่อนซื้อควรดูองค์ประกอบหลายๆ อย่างรวมกัน แล้วจึงค่อยตัดสินใจ

- กินน้อยๆ
คน ส่วนมากมักจะกลัวไม่กล้ากินเยอะจนบางครั้งพลังงานที่รับเข้าไปไม่เพียงพอ กับที่ร่างกายต้องการสําหรับทํากิจกรรมนั้นๆ อย่าลืมว่ากินได้ แต่ก็อย่าให้มากจนเกินไปนัก เพราะร่างกายจะเผาผลาญไม่ทัน เกิดเป็นไขมันสะสม แล้วต้องมานั่งกลุ้มไดเอ็ทกันใหม่

- ออกกําลังกายเท่านั้นคือหนทางการลดอ้วน
ถึงแม้ว่าคุณจะออกกําลังกายบ่อยแค่ไหนก็ตาม แต่หากขาดการวางแผนการกินที่ดีต่อสุขภาพแล้ว การออกกําลังกายที่ทําไปก็ถือว่าสูญเปล่าได้

- ไม่ควรกินน้ำมากๆ ขณะออกกําลังกาย
ผิด - การเสียน้ำมากๆ ไม่ดีต่อร่างกายเลยโดยเฉพาะเวลาที่กําลังอยู่ในที่ร้อนๆ ฉะนั้น ระหว่างและหลังออกกําลังกายก็อย่าลืมดื่มน้ำเข้าไปให้เพียงพอต่อความต้องการ ของร่างกายด้วย

- ไดเอ็ทแบบอดๆ
แน่ นอนว่าการลดน้ำหนักแบบนี้จะเห็นผลเร็วและง่ายต่อการปฏิบัติด้วย แต่มันก็ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องนัก คุณควรหันกลับมาใช้วิธีแบบเดิมๆ คือควบคุมอาหารและออกกําลังกายควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า

- กินโปรตีนเยอะๆ แป้งน้อยๆ
หลายๆ คน อาจจะกําลังฮิตกับการไดเอ็ทประเภทนี้มาก คือ ไม่กินพวกข้าวหรือขนมปังเลย อย่าลืมสิคะว่า คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก็มีความสําคัญต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อนะ เอ้า...ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ทิ้งมันได้ลงก็ให้มันรู้ไป!

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

[MV:HD:Eng lyrics] Super Junior (슈퍼주니어) No Other[No Other]

ทำอย่างไรไม่ให้รักหมดโปรโมชั่น

คำกล่าวที่ว่า "ความรักของผู้หญิงจะเริ่มต้นจากศูนย์ หนึ่ง สอง สาม... แต่ความรักของผู้ชายกลับเริ่มต้นจากหนึ่งร้อยนับถอยหลังไปจนถึงศูนย์" แล้วหัวอกลูกผู้หญิงอย่างเรา จะทำอย่างไรให้ความรักที่เขามีไม่ลดน้อยถอยลง


รักที่ตัวตนของเขา
ในช่วงเริ่มต้นของความรัก คุณสาวๆ อาจมองข้ามความเป็นตัวตนของเขาไป และเลือกมองแต่สิ่งดีๆ มองแต่สิ่งที่คุณอยากมอง โดยลืมมองด้านที่ไม่ดีของเขา แต่อยากให้คุณเข้าใจว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ อย่างตอนนี้เขาไว้ผมยาว คุณก็จบังคับให้เขาตัดผม โกนหนวดโกนเคราให้เรียบร้อยอย่างที่คุณชอบ หรืออย่างเขาเป็นคนแต่งตัวสบายๆ แต่คุณก็คิดว่าอยากให้เขาแต่งตัวดีๆ เพื่อจะได้เข้าสังคมในกลุ่มเพื่อนของคุณได้ สิ่งเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่ย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณต้องรักเขาอย่างที่เขาเป็น


อย่าเรียกร้องและแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป
ในระยะที่เพิ่งคบหากันอาจยังไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่คู่ที่คบกันมาเป็นระยะเวลานานไม่ฝ่ายหนึ่งก็ฝ่ายใด แต่ส่วนมากมักจะเป็นฝ่ายหญิงมักเริ่มเรียกร้องจากอีกฝ่ายมากขึ้นอย่างเช่น ต้องการให้เขาไปเดินช้อปปิ้งด้วยทุกครั้งทั้งๆ ที่เขาไม่ชอบไป หรือแม้แต่บังคับให้เขาต้องโทรศัพท์หาทุกคืนก่อนเข้านอน หรือคุณเริ่มรู้สึกว่าคุณคบกันมานานแล้วแต่เขายังไม่พูดคุย เรื่องแผนการในอนาคตร่วมกันกับคุณสักที บางครั้งเขาอาจจะทำตัวตามปกติเหมือนตั้งแต่ตอนเริ่มคบกันใหม่ๆ แต่คุณเองที่เริ่มเรียกร้อง และแสดงความเป็นเจ้าของ รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความรัก และความสัมพันธ์ของพวกคุณ


ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง
จงเข้าใจในความเป็นจริงของโลกในข้อนี้ โดยเฉพาะเวลาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่นช่วงแรกๆ ที่เขาจีบคุณเขาอาจจะขับรถไปรับ-ส่งคุณที่บ้านทุกวัน แต่เมื่อคบกันไปนานๆ ก็ต้องเข้าใจว่าเขาอาจมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ไม่มีเวลามาดูแลเอาใจใส่คุณเหมือนเดิม หรืออย่างสมัยก่อนตอนเป็นแฟนกันใหม่ๆ คุณกับเขาคุยโทรศัพท์ข้ามคืนกันแบบไม่รู้สึกเบื่อ แต่พอรู้จักและคุยกันบ่อยๆ เขาอาจโทรศัพท์มาคุยกับคุณเพียงไม่นาน เพราะคุณกับเขามีการพูดคุยสนิทสนมจนรู้และเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ดีขึ้น ดังนั้นต้องทำความเข้าใจว่าทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา


ดูแลตัวเองอยู่เสมอ
ต้องยอมรับว่าความสวยงาม สดใส ยิ้มแย้มทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจ...คุณควรจำวันแรกที่ คุณพบกับเขาให้ได้ว่าในวันนั้นคุณเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องเสื้อผ้า หน้าผมไปเต็มที่ขนาดไหน และอย่าปล่อยให้ความประทับใจในวันนั้นกลายเป็นเพียงวันเวลาที่ผ่านเลย เพราะสาวๆ ส่วนใหญ่เมื่อมีคนรักแล้วมักทำตัวเป็นของตาย ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจากสาวหน้าใส กลายเป็น สาวหน้าโทรม จากหุ่นเอวบางร่างน้อยกลายเป็นคุณป้าหมี หรือจากที่เคยพิถีพิถันเลือกเสื้อผ้า ที่สวมใส่ ก็หันมาใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าแตะทุกครั้ง แล้วก็เถียงว่า "ตัวตนจริงๆ ของฉันเป็นแบบนี้" แต่คุณต้องเข้าใจว่าใครๆ ก็อยากเห็นภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะแฟน หนุ่มของคุณที่ยังจำภาพวันแรกที่พบคุณได้ และเชื่อว่าเขาต้องอยากเห็นคุณดูดีไปตลอด

ความรักที่ไม่มีวันลดน้อยถอยลงก็คือความรักที่เกิดขึ้นจากความ "พอดี" ของคนสองคน ทั้งนิสัย สถานะทางสังคม พื้นฐานทางครอบครัว และสิ่งสำคัญที่สุดคือคุณทั้งสองจะต้องมอบความรักและเติมเต็มความรักให้แก่กันจนลงตัว ไม่มีฝ่ายใดที่รักมากกว่า

วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

ไอเดียวเจ๋งๆ ทำให้บ้านมีเสน่ห์

- มูลี่หรือฉาก เป็นการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนแบบไม่ยุ่งยาก แถมยังมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการต่อเติมหรือกั้นห้อง อีกทั้งยังช่วยซ่อนความรกของชั้นวางของและทำให้ห้องดูเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย

- ลองเปลี่ยนโคมไฟใหม่ เพราะแสงส่งผลต่อพื้นที่มากกว่าสิ่งอื่นใด และยังช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของห้องได้อีกด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนโคมไฟและหลอดไฟให้เหมาะกับห้องก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างออกไป

เช่น การติดโคมไฟแชนเดอเลียร์เหนือโต๊ะรับประทานอาหารเพียงอันเดียวก็ทำให้ห้องดู สวยงามมีสไตล์ขึ้น หรือติดโคมไฟแสงอ่อนๆ ในห้องนอนก็สร้างบรรยากาศทำให้คุณเคลิ้มน่าดูเลยค่ะ

- จัดมุมเล็กๆ ของตัวเอง อาจเริ่มจากห้องนอนของตัวเองก่อน เพราะห้องนอนเป็นห้องที่แต่ละคนใช้งานมากกว่าห้องไหนๆในแต่ละวัน ดังนั้น ถ้าห้องนอนของเราน่าอยู่ ก็จะมีแรงบันดาลใจในการตกแต่งห้องส่วนอื่นๆ ของบ้านต่อไป....

- ติดผ้าม่าน การติดผ้าม่านเป็นวิธีช่วยกรองแสงแดดให้เข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเหมาะสม และการติดผ้ากรุซับในด้านหลังม่านจะช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้ห้องนั้นๆ เทคนิคง่ายๆ อีกอย่างคือ ติดผ้าม่านชนิดทิ้งชายเป็นแนวยาวจากเพดานจรดพื้น จะช่วยพรางตาให้ห้องที่มีเพดานเตี้ยดูสูงขึ้น

ลองปรับลองเปลี่ยนดูนะค่ะ กับไอเดียวที่เรานำมาฝากในวันนี้ง่ายๆ ค่ะ หวังว่าคุณสาวๆ จะลองเอาไปทำกันดูนะค่ะ จะได้มีบ้านที่มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ ชวนให้อยากพักผ่อนในแบบสบาย น่าอยู่กว่าเดิม


ครื่องปรุง

ข้าวกล้องหอมนิล (ข้าวกล้องสีดำ) หุงสุก 70 กรัม หมูบดละเอียด 50 กรัม พริกไทยขาว 1 หยิบมือ ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา เห็ดหอมแห้งทั้งดอก (ดอกเล็ก) 5 ดอก น้ำแช่เห็ดหอม 1 ถ้วย ซุปผงรสหมู 1 ช้อนชา

ครื่องสำหรับโรยหน้าโจ๊ก

ไส้หมูอ่อนต้มสุก 5 ชิ้น ตับหมูต้มสุกหั่นบางๆ 5 ชิ้น ไข่เยี่ยวม้า (1 ลูกหั่น 4 ชิ้น) ครึ่งลูก ปาท่องโก๋ 1 ชิ้น ขิงอ่อนซอย 10 กรัม ไข่แดงของไข่เค็ม (ครึ่งฟอง) 1/2ฟอง

พลังงานที่ได้รับ (โดยประมาณ) = 343 Kcal

วิธีทำ

1.หุงข้าวกล้องหอมนิลด้วยหม้อหุงข้าว อัตราส่วนข้าว 1 ต่อน้ำ 2.2 ส่วน 2. นำเห็ดหอมมาแช่น้ำจนนุ่มประมาณ 20 นาที กรองเอาแต่น้ำ นำข้าวหุงสุกที่ได้ไปบดกับน้ำแช่เห็ดหอม และผงปรุงรสหมูในเครื่องปั่นอเนกประสงค์ จนเมล็ดข้าวกล้องละเอียดขึ้น พักเอาไว้ 3. ผสมหมูสับกับซอสปรุงรสและพริกไทยขาวให้เข้ากัน นำหมูไปแปะที่ด้านใต้ของเห็ดหอมที่แช่น้ำจนนุ่มแล้ว พักเอาไว้ 4. นำส่วนผสมข้าวที่ได้ไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ ใส่เห็ดหอมที่ยัดไส้หมูเอาไว้แล้วลงไป คนเบาๆจนส่วนผสมทั้งหมดเดือด 5. ตักโจ๊กที่ได้ใส่ชาม แต่หน้าโจ๊กด้วยใส้หมู ตับหมู ของซอย ไข่เยี่ยมม้า ปาท่องโก๋ ไข่แดงของไข่เค็ม โรยหน้าด้วยผักชีและต้นหอม เสริฟขณะร้อน